5 เหตุผล ที่เครื่องฟอกอากาศ จำเป็นต่อบ้านที่มีเด็ก

หลายคนอาจไม่เคยรู้ว่าเด็กมีอัตราการหายใจถี่กว่าผู้ใหญ่ ทำให้สูดฝุ่นละออง หรือฝุ่น PM 2.5 เข้าไปได้มากกว่า ยิ่งเด็กอายุน้อย ยิ่งเสี่ยงมากขึ้น เนื่องจากเด็กเล็กมีภูมิคุ้มกันโรคน้อยกว่าผู้ใหญ่ ฝุ่นพิษในอากาศจึงสามารถเข้าสู่ระยะทางเดินหายใจ และกระแสเลือดได้ง่าย เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) จึงเป็นเหมือนตัวช่วยที่เข้ามาเปลี่ยนอากาศภายในบ้านให้บริสุทธิ์มากขึ้น ดังนั้นมาดูว่าความเสี่ยงอะไรบ้างที่จะเกิดขึ้นกับเด็ก ถ้าคุณไม่มีเครื่องฟอกอากาศภายในบ้าน

เหตุผลเครื่องฟอกอากาศ จำเป็นต่อบ้านที่มีเด็ก

เครื่องฟอกอากาศเป็นสิ่งสำคัญสำหรับบ้านที่มีเด็ก ไม่เพียงแต่จะช่วยกรองฝุ่นละอองและสารก่อภูมิแพ้ แต่ยังช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อโรคในอากาศและสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและบริสุทธิ์สำหรับการเจริญเติบโตของเด็ก การเลือกเครื่องฟอกอากาศที่เหมาะสมจึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับสุขภาพของคนในครอบครัว

1. สมองพัฒนาช้า IQ ต่ำ และสมาธิสั้น

เนื่องจากอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายเด็กยังอยู่ในช่วงพัฒนา หากได้รับฝุ่นละออง หรือฝุ่น PM 2.5 สะสมอย่างต่อเนื่อง ร่างกายจะดูดซึมฝุ่นเข้าไปในกระแสเลือด สู่ระบบประสาทและสมอง ไปขัดขวางการเจริญเติบโตของระบบต่าง ๆ ส่งผลให้เซลล์สมองผิดปกติ และถูกทำลาย มีความเสี่ยงที่สมองจะพัฒนาการช้า  IQ ต่ำ และสมาธิสั้น

2. มีผลต่อระบบทางเดินหายใจ

ฝุ่นละอองที่เข้าสู่ระบบทางเดินหายใจคือ ฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน ยิ่งเมื่อเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจของเด็ก จะทำให้เกิดการระคายเคือง และอาจทำลายเนื้อเยื่อปอดได้ ถ้าได้รับในระยะเวลานานติดต่อกันจะสะสมเป็นพังผืดหรือแผล และอาจทำให้เด็กติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจได้ง่าย รวมไปถึงเด็กที่มีโรคประจำตัวภูมิแพ้ และหอบหืด จะยิ่งไวต่อการกระตุ้น และอาจทำให้เกิดอาการหนักกว่าคนทั่วไป เช่น แสบตา แสบจมูก น้ำมูกไหล ไอบ่อย หายใจลำบาก หรือแน่นหน้าอก เป็นต้น

3. เสี่ยงมะเร็งปอดสูง

การหายใจรับฝุ่นละออง หรือฝุ่น PM 2.5 ตั้งแต่ยังเล็ก ส่งผลต่อสมรรถภาพปอดที่ยังไม่แข็งแรงของเด็กเป็นอย่างมาก มีการศึกษาพบว่าการได้รับฝุ่น PM 2.5 ในปริมาณ 22 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เทียบเท่ากับการสูบบุหรี่ 1 มวน ถึงแม้ความเสี่ยงของฝุ่น PM 2.5 จะไม่มากเท่าการสูบบุหรี่ แต่ถ้าได้รับอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน ก็เพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งปอดได้สูงเช่นกัน ฉะนั้นการเลือกเครื่องฟอกอากาศช่วยป้องกัน PM 2.5 จึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม 

4. สาเหตุของโรคหัวใจ และหลอดเลือด

องค์การอนามัยโลก (World Health Organization – WHO) ระบุว่ามากกว่า 20% ของคนเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ และหลอดเลือดมีสาเหตุจากมลพิษทางอากาศ และทุก ๆ ปีมีมากกว่า 3 ล้านคน ดังนั้นมลพิษทางอากาศจึงมีผลต่อหัวใจที่ยังไม่แข็งแรงของเด็ก ยิ่งเด็กที่เป็นโรคหัวใจตั้งแต่กำเนิดจะยิ่งกระตุ้นให้โรครุนแรงมากขึ้น ส่วนในระยะยาวจะไปกระตุ้นการอักเสบให้ทั่วร่างกาย หลอดเลือดจะหนาตัวขึ้น ทำให้กล้ามเนื้อผนังหลอดเลือดเติบโตขึ้น ซึ่งในอนาคตคาดว่ามลพิษทางอากาศจะเพิ่มเป็นอีกหนึ่งปัจจัยเสี่ยงหลักที่ทำให้เกิดโรคหัวใจ

5. ภัยต่อลูกในครรภ์ และประสบภาวะมีบุตรยาก

มลพิษทางอากาศเพิ่มความเสี่ยงต่ออัตราการแท้งบุตร การคลอดก่อนกำหนด หรือภาวะทารกน้ำหนักตัวน้อยกว่าปกติ เนื่องจากมลพิษในระดับจุลภาคสามารถเดินทางผ่านกระแสเลือดไปยังรังไข่และรกได้ และล่าสุดมีงานวิจัยพบว่า มลพิษทางอากาศทำให้การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) หรือทางเลือกการรักษาภาวะมีบุตรยากสำเร็จลดลง โดยมีงานวิจัยหนึ่งระบุว่าคู่รัก 18,000 คู่ในประเทศจีน ที่อาศัยในพื้นที่ ๆ มีมลพิษทางอากาศระดับปานกลางไปถึงสูง มีโอกาสมีบุตรยากกว่าคู่อื่น ๆ มากถึง 20 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงการศึกษาในไต้หวันและอเมริกาก็ยังพบอีกว่า มลพิษทางอากาศส่งผลต่อขนาดและรูปทรงของสเปิร์ม อีกทั้งยังมีผลทำให้สเปิร์มขยับตัวได้ยากขึ้นอีกด้วย

เห็นได้ว่ามลพิษทางอากาศนอกจากจะมีความเสี่ยงต่อเด็กแล้ว ยังมีผลกระทบต่อเด็กในครรภ์ และภาวะมีบุตรยากอีกด้วย ดังนั้นการมีเครื่องฟอกอากาศภายในบ้าน จึงเป็นตัวช่วยสำคัญที่มาดักจับฝุ่นที่มีอนุภาคขนาดเล็กที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า สามารถฆ่าเชื้อโรค ดักจับไวรัส แบคทีเรีย และสารก่อภูมิแพ้ โดยเฉพาะเครื่องฟอกอากาศสำหร้บบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง เรียกได้ว่าเครื่องฟอกอากาศมาช่วยลดความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับตัวคุณ และลูกน้อยได้อย่างไม่ต้องสงสัย 

 

สนใจสั่งซื้อสินค้า Blueair

Shopee: Blueair official store

Lazada: Blueair

NocNoc: Sangchai Shop

 

สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Line Official: @blueair

Tel. 02-446-5666 ต่อ 2200, 2207

 

ข้อมูลจาก : https://samitivejchinatown.com/th/article/health/PM-25-Effects-Your-Health