เครื่องฟอกอากาศจำเป็นไหม เลือกเครื่องฟอกอากาศแบบไหนดี

ในยุคที่ฝุ่น PM 2.5 กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน คำถามที่หลายคนสงสัย คือ เครื่องฟอกอากาศจำเป็นไหม? คำตอบคือ จำเป็นมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะในพื้นที่ ๆ มีฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐาน หรือครอบครัวที่มีเด็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ เนื่องจากอากาศที่เราหายใจอาจเต็มไปด้วยมลภาวะที่มองไม่เห็น และนั่นคือเหตุผลที่เครื่องฟอกอากาศและไส้กรอง กลายเป็นไอเทมสำคัญภายในบ้าน ดังนั้นเรามาทำความรู้จักเครื่องฟอกอากาศให้มากขึ้น พร้อมวิธีเลือกเครื่องฟอกอากาศแบบไหนดี ให้เหมาะกับบ้านของคุณ

ทำไม? เครื่องฟอกอากาศถึงยังจำเป็น

หลายคนอาจสงสัยว่า เครื่องฟอกอากาศจำเป็นไหม หรือ  เครื่องฟอกอากาศช่วยได้จริงไหม คำตอบคือ ยังมีความจำเป็น และเครื่องฟอกอากาศสสามารถช่วยได้จริง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ หอบหืด เด็กเล็ก ผู้สูงวัย ครอบครัวที่มีสัตว์เลี้ยง คนที่อยู่ใกล้ถนนใหญ่ หรือพื้นที่ฝุ่นควันเยอะ เครื่องฟอกอากาศเหมาะใช้ในห้องที่เราใช้เวลาอยู่ในนั้นเป็นส่วนมาก เช่น ห้องนอน ห้องนั่งเล่น เพราะเครื่องฟอกอากาศห้องนอน และ เครื่องฟอกอากาศห้องนั่งเล่น จะช่วยเพิ่มคุณภาพอากาศที่ดี และส่งผลต่อคุณภาพชีวิตในระยะยาว

เทคนิคเลือกเครื่องฟอกอากาศให้ตอบโจทย์การใช้งาน

ในยุคที่คุณภาพอากาศเริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพมากขึ้น หลายคนเริ่มหันมา เลือกเครื่องฟอกอากาศ เป็นผู้ช่วยสำหรับบ้านและออฟฟิศ แต่การเลือกซื้อไม่ใช่แค่ดูจากดีไซน์หรือราคาเท่านั้น ยังมีเทคนิคและรายละเอียดที่ควรพิจารณา เพื่อให้ได้เครื่องที่ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานและสุขภาพ

1.เลือกประเภทไส้กรองให้เหมาะสม

ไส้กรองคือหัวใจสำคัญของเครื่องฟอกอากาศ หากต้องการกรองฝุ่น pm2.5 หรือ สารก่อภูมิแพ้ ควรใช้ HEPA Filter แต่ถ้าต้องการลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ เช่น กลิ่นอาหาร กลิ่นควันบุหรี่ หรือกลิ่นสัตว์เลี้ยง ควรเลือกเครื่องฟอกอากาศ ดับกลิ่น ที่มี Activated Carbon Filter เพราะสามารถดูดซับกลิ่น ควัน และสารเคมีระเหย (VOC) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

2.ระดับเสียงและโหมดการทำงาน

หากต้องการเปิดใช้เครื่องฟอกอากาศตอนนอน ควรเลือกที่มี โหมดเงียบ (Sleep Mode) เพื่อลดเสียงรบกวน และหากเป็นรุ่นที่มีการปรับความแรงลมอัตโนมัติตามคุณภาพอากาศ ก็จะช่วยให้ใช้งานสะดวก และประหยัดพลังงานมากขึ้น 

3.ดูค่า CADR ให้เหมาะสม

CADR (Clean Air Delivery Rate) คือ ค่ามาตรฐานที่ใช้บอกประสิทธิภาพของเครื่องฟอกอากาศ ยิ่งค่า CADR สูง ยิ่งกรองอากาศได้เร็วและครอบคลุมพื้นที่กว้างขึ้น เช่น หากห้องมีขนาด 30 ตร.ม. ควรเลือกเครื่องที่มีค่า CADR 200 ขึ้นไป 

4.ระบบตรวจวัดคุณภาพอากาศ (Air Quality Sensor)

เครื่องฟอกอากาศรุ่นใหม่มักมาพร้อมเซนเซอร์ตรวจวัดคุณภาพอากาศและไฟแสดงผล เช่น สีเขียว–เหลือง–แดง เพื่อบอกสภาพอากาศภายในห้องแบบเรียลไทม์ ระบบนี้ช่วยให้ผู้ใช้เห็นความเปลี่ยนแปลงของอากาศได้ชัดเจน และปรับโหมดการทำงานโดยอัตโนมัติ

5.ค่าใช้จ่ายและการบำรุงรักษา

ก่อนตัดสินใจซื้อควรตรวจสอบ ค่าเปลี่ยนแผ่นกรอง และอายุการใช้งาน บางรุ่นแม้ราคาเครื่องไม่สูง แต่ค่าเปลี่ยนกรองกลับแพงมาก ซึ่งอาจทำให้สิ้นเปลืองในระยะยาว การเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีราคาไส้กรองเหมาะสม ดูแลรักษาง่าย จะช่วยให้ใช้งานได้คุ้มค่า และยาวนานกว่า

จบทุกปัญหาอากาศในบ้าน ด้วย HealthProtect จาก Blueair

หากคุณกำลังคิดว่าเครื่องฟอกอากาศแบบไหนดีที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ และมีมาตรฐานระดับสากล เชื่อถือได้ ขอแนะนำเครื่องฟอกอากาศ Blueair รุ่น HealthProtect นวัตกรรมเครื่องฟอกอากาศจากสวีเดน มาพร้อมเทคโนโลยี HEPASilent Ultra™ กำจัดอนุภาคละเอียดถึง 0.1 ไมครอน กำจัดได้ทั้ง ฝุ่น PM 2.5 แบคทีเรีย ไวรัส กลิ่นไม่พึงประสงค์ สารเคมีในอากาศ (VOC) นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชัน Smart Control ผ่านแอป Blueair และชิพ RFID ติดตามไส้กรองแบบเรียลไทม์ เป็นเครื่องฟอกอากาศที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการเครื่องฟอกอากาศในบ้าน คุ้มค่าด้วยคุณภาพและความปลอดภัยระดับสากล เหมาะทั้งกับบ้านพักอาศัย คลินิก หรือสำนักงาน

ในยุคที่อากาศสะอาดไม่ใช่ของฟรีอีกต่อไป การมีเครื่องฟอกอากาศดี ๆ สักเครื่องจึงไม่ใช่เรื่องฟุ่มเฟือย แต่เป็นการดูแลสุขภาพอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะเครื่องฟอกอากาศ ที่ดีที่สุด Blueair ที่มีทั้งดีไซน์ ประสิทธิภาพ และเทคโนโลยีล้ำสมัย พร้อมตอบโจทย์ชีวิตทุกคนได้อย่างลงตัว

 

สั่งซื้อสินค้า 

🔵 SHOPEE: https://shope.ee/8pLeTAtgAl  

🔵 LAZADA: https://bit.ly/3yYChs3

 

สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

FACEBOOK : Blueair Thailand

TIKTOK : Blueair Thailand

LINE : @blueair

Tel. 02-446-5666 ต่อ 2200, 2207